
NK Cell (Natural Killer Cell) หรือที่เรียกกันว่า เซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติ คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งในกลุ่มลิมโฟไซต์ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการทำลายเซลล์ที่ผิดปกติ เช่น เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส หรือเซลล์มะเร็ง ถือเป็น แนวป้องกันด่านแรก ของระบบภูมิคุ้มกันแบบกำเนิด (Innate Immunity)
สิ่งที่ทำให้เซลล์ NK โดดเด่นคือ ความสามารถในการตรวจจับและทำลายเซลล์อันตรายโดยไม่ต้องเคยเจอเชื้อโรคมาก่อน ต่างจากเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดอื่น เช่น T-Cells ที่ต้องได้รับการกระตุ้นก่อนถึงจะทำลายเป้าหมายได้
เซลล์นักฆ่าธรรมชาติ หรือ เซลล์ NK (Natural Killer Cell) เป็นหนึ่งในเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันร่างกายจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากภายใน เช่น เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสหรือเซลล์ที่เริ่มกลายพันธุ์เป็นมะเร็ง หน้าที่หลักของเซลล์ NK คือการทำลายเซลล์ผิดปกติเหล่านี้ก่อนที่มันจะเติบโตจนส่งผลต่อสุขภาพในระดับที่รุนแรง
ในแต่ละวัน เซลล์ NK จะทำหน้าที่ ลาดตระเวนทั่วร่างกาย โดยเคลื่อนไหวผ่านกระแสเลือดและระบบน้ำเหลือง คอยตรวจสอบสัญญาณจากเซลล์ต่าง ๆ เพื่อแยกแยะว่าเป็น เซลล์ของร่างกาย หรือ สิ่งแปลกปลอมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ตัวอย่างของเซลล์เป้าหมายที่เซลล์ NK ตรวจจับ ได้แก่ เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส เซลล์กลายพันธุ์ หรือเซลล์ที่ขาดสัญญาณพื้นฐานในการแสดงตัวว่าเป็นเซลล์ปกติของร่างกาย เช่น โปรตีนชนิด MHC-I ซึ่งเป็น บัตรประชาชน ของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน หากเซลล์ NK ตรวจพบความผิดปกติ เซลล์เหล่านี้จะดำเนินการ กำจัดภัยคุกคาม โดยใช้กลไกทำลายเซลล์เฉพาะทาง ผ่านการปล่อยสารเคมี เช่น
นอกจากบทบาทในการกำจัดภัยโดยตรงแล้ว เซลล์ NK ยังมีความสามารถในการ สื่อสารกับเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่นๆ ด้วยการหลั่ง ไซโตไคน์ (Cytokine) ซึ่งเป็นโปรตีนสื่อสารที่ช่วยส่งสัญญาณกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทั้งหมดตื่นตัวและเข้ามาร่วมกำจัดเชื้อโรคหรือเซลล์ผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
ด้วยความสามารถที่หลากหลายและตอบสนองได้รวดเร็ว เซลล์ NK จึงเป็น นักฆ่าด่านหน้า ที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องร่างกายจากโรคเรื้อรัง ภาวะอักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อไวรัส รวมถึงโรคมะเร็งในระยะเริ่มต้น นับเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดที่เราควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลและส่งเสริม
NK Cell หรือเซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติ เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งในกลุ่มลิมโฟไซต์ที่ร่างกายสร้างขึ้นจาก ไขกระดูก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อฟองน้ำที่อยู่ภายในกระดูก เมื่อเซลล์เหล่านี้พัฒนาเต็มที่แล้ว บางส่วนจะยังคงอยู่ในไขกระดูก ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในระบบน้ำเหลือง
NK Cell สามารถพบได้มากใน
โดยเฉลี่ย เซลล์ NK คิดเป็นประมาณ 510% ของเซลล์ลิมโฟไซต์ที่หมุนเวียนอยู่ในเลือด และมีอายุเฉลี่ยเพียงประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ร่างกายสามารถผลิตเซลล์ใหม่ได้ตลอดเวลาเพื่อคงความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน
NK Cell หรือเซลล์นักฆ่าธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หากร่างกายมี NK Cell ต่ำ หรือเซลล์เหล่านี้ทำงานได้ไม่เต็มที่ อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและมีผลเสียหลายประการ รวมถึง
1. ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ติดเชื้อง่าย
เNK Cell ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อจากไวรัสต่างๆ เช่น ไวรัส HPV (ไวรัสที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก), เริม, ไซโตเมกะโลไวรัส (CMV), ไวรัสเอปสเตนบาร์ (EBV) และ ไวรัสวาริเซลลาโซสเตอร์ (ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส) หากมี NK Cell ไม่เพียงพอหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายจะเสี่ยงติดเชื้อไวรัสเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
2. ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
NK Cell มีบทบาทในการตรวจจับและทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกาย เมื่อจำนวนหรือประสิทธิภาพของเซลล์ NK ลดลง ความสามารถในการต่อต้านเซลล์มะเร็งก็ลดลง ทำให้มีความเสี่ยงในการพัฒนาของมะเร็งสูงขึ้น
3.เสี่ยงต่อโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune)
NK Cell ช่วยควบคุมไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเซลล์ของร่างกายเอง ในกรณีที่มีภาวะ NK Cell ต่ำ การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอาจผิดปกติ จึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือ โรคโคลิติส (Colitis)
4. เสี่ยงต่อโรคอักเสบเรื้อรัง
NK Cell มีบทบาทในการตอบสนองต่อการอักเสบจากการติดเชื้อหรือความเสียหายของเซลล์ หากมี NK Cell ไม่เพียงพอ ระบบภูมิคุ้มกันอาจตอบสนองผิดปกติ ทำให้เกิดโรคอักเสบเรื้อรัง เช่น หอบหืด และ โรคลำไส้อักเสบ (IBD) ซึ่งอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง
การเสริมสร้างและรักษาระดับNK Cell ให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและสามารถต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การตรวจระดับเซลล์ NK ในร่างกาย ช่วยให้แพทย์ประเมิน ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม ได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการป่วยบ่อย อ่อนล้าเรื้อรัง หรือมีความเสี่ยงต่อโรคร้าย
การตรวจระดับ NK Cell เป็นการเจาะเลือดเพียงเล็กน้อย โดยจะส่งเลือดไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง เพื่อประเมิน
การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพ หรือการบำบัดเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น NK Cell Therapy, วิตามินเฉพาะบุคคล หรือโปรแกรมฟื้นฟูอื่น ๆ ได้อย่างแม่นยำ
NK Cell Therapy หรือ การบำบัดด้วยเซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติ (Natural Killer Cell Therapy) เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงลึกถึงระดับเซลล์ โดยใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษในร่างกายของเราเองที่เรียกว่า NK Cell (Natural Killer Cell) มีหน้าที่หลักในการค้นหาและทำลายเซลล์ที่ผิดปกติ เช่น เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส , เซลล์กลายพันธุ์ที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็ง , เซลล์ที่ระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถจดจำว่าเป็น "เซลล์ของร่างกาย"
ในกระบวนการ NK Cell Therapy แพทย์จะทำการเก็บเลือดของผู้รับการบำบัด เพื่อนำเซลล์ NK ออกมาเพาะเลี้ยง เพิ่มจำนวน และกระตุ้นให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในห้องปฏิบัติการที่ปลอดภัย ก่อนจะฉีดกลับเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้สามารถกำจัดภัยคุกคามในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

เช่น เป็นหวัดง่าย แพ้อากาศ ติดเชื้อไวรัสซ้ำบ่อย หรือฟื้นตัวช้า
การเสริมภูมิคุ้มกันในระดับลึกสามารถช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาว
NK Cell Therapy ช่วยฟื้นฟูเซลล์ภูมิคุ้มกันให้กลับมาแข็งแรง
เช่น โรคข้ออักเสบ, หอบหืด, ภูมิแพ้เรื้อรัง, หรือโรคลำไส้อักเสบ (IBD)
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ภูมิคุ้มกันจะลดลง เซลล์ NK Therapy จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานได้ดี
การตรวจประเมินประสิทธิภาพของ NK Cell ในร่างกาย เพื่อวัดความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันในการตรวจจับและทำลายเซลล์ติดเชื้อ รวมถึงเซลล์กลายพันธุ์ที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็งในอนาคต
กระบวนการบำบัดด้วยการเก็บ NK Cell จากเลือดของคุณเอง แล้วนำไปเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง เพื่อเพิ่มจำนวนและความแข็งแรงของเซลล์ให้พร้อมใช้งาน
ใช้ระยะเวลาเพาะเลี้ยงประมาณ 14-21 วัน
ตรวจประเมินระดับภูมิคุ้มกันก่อนเข้ารับการบำบัด พร้อมรับบริการ NK Cell Therapy แบบครบวงจร